บทที่1:สร้างตัวละครที่ละขั้น
อันดับแรกการผจญภัยใน D&D
คือการจินตนาการพร้อมกับสร้างตังละครของเรา
ซึ่งเป็นผสมระหว่างเนื้อหาในเกมกับบทบาทของตัวละคนของคุณและจินตนาการของคุณ
คุณต้องเลือกเผ่าพันธุ์(เช่น มนุษย์ หรือฮอบบิท)และอาชีพ(เช่น นักสู้
หรือนักเวทย์) คุณต้องคิดบุคลิก รูปร่าง และภูมิหลังของตัวละครด้วยเสมอ
เมื่อการสร้างตัวละครเสร็จสิ้น ตังละครที่คุณสร้างจะเป็นตัวของคุณในเกมนั้นๆ และมันก็คือเป็นสัญลักษ์ของD&D
ก่อนที่คุณจะไปถึงขั้นตอนที่1ในด้านด้านล่างลองคิดเรื่องการผจญที่คุณชอบ
คุณอาจจะเป็นนักรบที่กล้าหาญ เป็นโจรที่เอาตัวรอดเก่ง เป็นนักบวชที่เก่งกล้า
หรือนักเวทย์ทรงเสนห์ หรือคุณอาจจะสนใจตัวละครที่แตกต่างอย่างเช่น
โจรบ้าพลังที่ชอบใช้มือฟาดฟันศัตรู หรือนักธนูผู้ปลิดชีพศัตรูในระยะไกล
คุณชอบเรื่องที่มีทั้งคนแคระละเอลฟ์อยู่ด้วยกันไหม? ลองสร้างตัวละครจากเผ่าทั้งหมดที่อยู่ดูสิ
คุณอยากให้ตัวละครของคุณเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดหรือไม่?คุณลองพิจารณาอาชีพอย่างbarbarianหรือpaladinดูสิ หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มยังไง
ลองดูภาพประกอบในหนังสือเล่มนี้ดูเพื่อประกอบการติดสินใจ
เมื่อคุณมีตัวละครในความคิดแล้ว ตัวละครนั้นจะสะท้อนตัวตนและความต้องการของคุณ
ซึ่งมันจะค่อยๆปรากฎชัดขั้นในขณะเล่น
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณมาที่โต๊ะเพื่อเล่นเกมพร้อมกับตัวละครของคุณ
คุณควรที่จะตั้งใจและเอาใจใส่กับมัน
(ให้ทำตามขั้นตอนตามลำดับ)
ตลอดบทนี้เราจะใช้แผ่นกระดาษเพื่อจดอุปกรณ์และทักษะของตัวละครของคุณ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่เป็นทางการหรือไม่ก็ตาม
(เหมือนตัวละครในท้ายหนังสือเล่มนี้)หรือจะจดเป็นดิจิตอลในโน๊ตบุ๊กก็ได้ แต่แผ่น D&D characterเป็นที่ๆเหมาะสมที่สุดที่จะใช้จดข้อมูล ในระหว่างการเล่น
สร้างBRUENOR
นี้คือตัวอย่างของการสร้างตัวละครในแต่ละขั้นตอนของโดยBob เขาได้สร้างคนแคระชื่อว่าBRUENOR
1.เลือกเผ่าพันธุ์
ทุกๆตัวละครจำเป็นจะต้องมีเผ่าพันธุ์
ที่มีสติปัญญาใกล้เคียงกับมนุษย์ ผู้เล่นทั่วไปส่วนมากจะเลือกคนแคระ เอลฟ์ ฮอบบิท
หรือไม่ก็มนุษย์ บางเผ่าพันธุ์ก็มีเผ่าพันธุ์ย้อย อย่างเช่นคนแคระภูเขา
เหรอเอลฟ์ป่า ในบทที่สองจะอธิบายลายละเอียดของเผ่าพันธุ์เหล่านี้ไว้
และเผ่าที่คนไม่ค่อยพูดถึงเราก็จะบอกลายละเอียดเอาไว้ด้วย อย่างเช่น
ดราร์ก้อนบอร์ล ฮาฟเอลฟ์ และฮอบบิท
เผ่าพันธุ์ที่คุณเลือกจะสนับสนุนตัวตนของตัวละครจากการสร้างรูปร่างและความสามารถพื้นฐานที่ได้รับจากการฝึกฝน
หรือจากสายเลือด ในแต่ละเผ่าพันธุ์จะมีความสามารถเป็นพิเศษที่ไม่ซ้ำกันอยู่
อย่างเช่นสัมผัสพิเศษ ความชำนาญในการใช้อุปกรณ์และเวทมนต์บางอย่างหรือทักษะการต่อสู้ ความพิเศษเหล่านี้บางครั้งอาจจะประสานกับบางอาชีพได้เป็นอย่างดี(ดูได้ที่ขั้นตอนที่2)
ตัวอย่างเช่น เท้าของเอลฟ์ที่เบาจะทำให้พวกเขาเป็นโจรที่ยอดเยี้ยม
หรือเอลฟ์ชั้นสูงก็สามารถที่จะเป็นจอมขมังเวทที่แข็งแกร่งได้
บางครั้งการเล่นแบบไม่สนใจลักษณะพิเศษเหล่านี้ก็ทำให้เกิดความสนุกได้เหมือนกัน
เช่น ครึ่งออร์คที่เป็นพาลาดิน หรือ คนแคระภูเขาที่เป็นนักเวท อาจจะไร้ประโยชน์
แต่ก็เป็นที่น่าจดจำ
เผ่าพันธุ์ของคุณสามารถประแต่งค่าความสามารถได้
ขึ้นอยู่กับคุณที่เป็นตัวกำหนดมัน ซึ่งจะมีลายละเอียดในขั้นตอนที่3
จดค่าความสามารถของคุณไว้และอย่าลืมนำมาใช้ในการสร้างตัวละคร
จดบันทึกความสามารถพิเศษที่ได้รับจากเผ่าพันธุ์ของคุณลงในแผ่น
D&D character
และอย่าลืมจดภาษาพื้นฐานและความว่องไวของตัวละครคุณเอาไว้ด้วย
การสร้างBRUENORขั้นตอนที่1
บ๊อบ ได้นั่งลงและเริ่มสร้างตัวละครของเขา
เขาได้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับคนแคระภูเขาเผ่ากรัฟ
ซึ่งเป็นตัวละครที่เขาต้องการจะนำมาเล่น เขาได้จดความสามารถของคนแคระBRUENORไว้ในแผ่น D&D character ของเขา รวมทั้งความว่องไวในการเคลื่อนที่ที่25ฟุตและภาษาที่รู้คือภาษาพื้นฐานและภาษาคนแคระ
เลือกอาชีพ
ในทุกๆการผจญภัยคุณต้องจำเอาไว้ว่าจะต้องเลือกอาชีพเสมอ แต่ละอาชีพจะอธิบายลักษณะของตัวละคร เช่น ความสามารถพิเศษ
กลยุทธ์ ที่เขาหรือเธอ จะสามารถใช้ในการสำรวจเหมือง การตู้สู้กับปีศาจ หรือ
ใช้ในการเจราจา ซึ่งจะอธิบายในบทที่3
ตัวละครของคุณจะได้รับความสามารถมากมายจากการเลือกอาชีพ
และได้รับผลประโยชน์จำนวนมากเช่น ความสามารถในแต่ละระดับของอาชีพ
ที่จะกำหนดเอกลักษณ์ของตัวละครของคุณให้ต่างจากอาชีพอื่นๆ
นอกจากนี้คุณยังจะได้รับความเชียวชาญจำนวนมากเกราะ อาวุธ ทอยเต๋าเพื่อยื้อชีวิต
และอุปกรณ์บางอย่าง
ความเชี่ยวชาญของตัวละครคุณจะกำหนดสิ่งต่างๆมากมายที่คุณจะทำได้ดี
เช่นการใช้อาวุธหรือการพูดโกหกให้ดูน่าเชื้อถือ บนแผ่น D&D character
ให้คุณบันทึกความสามารถพิเศษทั้งหมดของอาชีพของคุณไว้ที่ ระดับที่1
Level
ปกติตัวละครจะเริ่มที่ระดับที่1และจะเพิ่มระดับของคุณไปเรื่องๆเมื่อได้รับค่าประสบการณ์(XP) ตัวละครระดับ 1 จะไม่มีประสบการณ์ในการผจญภัยแม้ว่าเขาอาจจะเคยเป็นทหารหรือโจรสลัดและทำสิ่งที่เป็นอันตรายมาก่อน
การเริ่มต้นของ [1st
level] เป็นการทำเครื่องหมายให้ตัวละครของคุณเข้าสู่ชีวิตแห่งการผจญภัย
ถ้าคุณคุ้นเคยกับเกมอยู่แล้ว หรือกำลังเล่นD&Dเกมอื่น DM ของคุณอาจตัดสินใจที่จะให้คุณเริ่มต้นที่ระดับที่สูงกว่าโดยสมมติว่าตัวละครของคุณรอดชีวิตจากการผจญภัยที่น่าหวาดเสียวมาครั้งสองครั้ง
เคล็ดลับ
คำอธิบายของแต่ละอาชีพในบทที่3
จะประกอบไปด้วยคำแนะนำเพื่อสร้างตัวละครในอาชีพนั้นอย่างรวดเร็ว
รวมทั้งวิธีกำหนดค่าความสามารถสูงสุด ภูมิหลังที่เหมาะสมกับอาชีพ
และเวทมนต์เริ่มต้น
บันทึกระดับตัวละคนของคุณลงบนแผ่น D&D character ถ้าคุณเริ่มต้นในระดับที่สูงกว่า
ให้บันทึกองค์ประกอบเพิ่มเติมของอาชีพจะช่วยให้คนได้รับระดับที่ผ่านมาระดับ
บันทึกค่าประสบการณ์ของตัวละครระดับ1ว่ามี0XP ระดับจะสูงขึ้นโดยการใช้XPให้พอในระดับนั้น(ดู "Beyond 1st Level" หลังบทนี้)
ค่าพลังชีวิต
และ การฟื้นฟูพลังชีวิต
คือ
ค่าความสามารถของตัวละครของคุณในการต่อสู้กับภัยอันตรายอื่นๆ
สรุปค่าความสามารถต่างๆ
ความแข็งแกร่ง(Strength)
ประกอบไปด้วย : สมรรถภาพทางกายภาพตามธรรมชาติ , พลังกาย
เหมาสำหรับ : Barbarian, fighter, paladin
ความแข็งแกร่ง(Strength)
ประกอบไปด้วย : สมรรถภาพทางกายภาพตามธรรมชาติ , พลังกาย
เหมาสำหรับ : Barbarian, fighter, paladin
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับค่าความสามารถเพิ่มเป็นพิเศษ
คนแคระภูเขา (+2) ลูกครึ่งออคส์ (+2)
ลูกหลานมังกร (+2) มนุษย์ (+1)
คนแคระภูเขา (+2) ลูกครึ่งออคส์ (+2)
ลูกหลานมังกร (+2) มนุษย์ (+1)
ความคล่องแค่ว(Dexterity)
ประกอบไปด้วย : ความคล่องตัวทางกายภาพ , การตอบสนองต่อสิ่งปลุกเร้า , ความสมดุลของร่างกาย , การทรงตัว
เหมาะสำหรับ : Monk, ranger, rogue
ประกอบไปด้วย : ความคล่องตัวทางกายภาพ , การตอบสนองต่อสิ่งปลุกเร้า , ความสมดุลของร่างกาย , การทรงตัว
เหมาะสำหรับ : Monk, ranger, rogue
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับค่าความสามารถเพิ่มเป็นพิเศษ
เอลฟ์(+2) โนมป่า(+1)
ฮอบบิท(+2) มนุษย์(+1)
ความอดทน(Constitution)
ประกอบไปด้วย: สภาพร่างกาย ความอดทน พลังชีวิต
เหมาะสำหรับ:ทุกคน
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับค่าความสามารถเพิ่มเป็นพิเศษ
คนแคระ(+2) ครึ่งออร์ค(+1)
ฮอบบิทอ้วน(+1) มนุษย์(+1)
โนมหิน(+1)
ความฉลาด(Intelligence)
ประกอบไปด้วย:ความเฉียบแหลมของสติปัญญา ความจำ
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
เหมาะสำหรับ: Wizard
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับค่าความสามารถเพิ่มเป็นพิเศษ
เอลฟ์ชั้นสูง(+1) ครึ่งปีศาจ(+1)
โนม(+2) มนุษย์(+1)
ไหวหริบ(Wisdom)
ประกอบไปด้วย:การรับรู้ สัญชาตญาณ เชาปัญญา
เหมาะสำหรับ: Cleric, druid
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับค่าความสามารถเพิ่มเป็นพิเศษ
คนแคระเนินเขา(+1) มนุษย์(+1)
เอลฟ์ป่า(+1)
เสนห์(Charisma)
ประกอบไปด้วย:ความมั่นใจ ทักษะการพูด ความเป็นผู้นำ
เหมาสำหรับ: Bard, sorcerer, warlock
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับค่าความสามารถเพิ่มเป็นพิเศษ
ลูกครึ่งเอลฟ์(+2) ลูกหลานมังกร(+1)
ดาร์คเอลฟ์(+1) มนุษย์(+1)
ฮอบบิทตีนเล็ก(+1) ครึ่งปีศาจ(+2)
ที่ระดับ1ตัวละครของคุณจะได้ทอย1เต๋า
และชนิดของลูกเต๋าจะถูกกำหนดโดยอาชพของคุณ
ค่าเริ่มต้านของคุณเท่ากับคะแนนสุงสุดจากการทอยเต๋า
ตามที่ระบุไว้ในอาชีพของคุณ(คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนความอดทนของคุณซึ่งคุณจะได้กำหนดในขั้นตอนที่3)นี้จะเป้นค่าสูงสุดของคุณ
จดบันทึกค่าตัวละครชนิดลุกเต๋าและเลขที่คุณมีลงบนแผ่น D&D character
หลักจากคุณพักผ่อนคุณสามารถใช้แต้มจากลุกเต๋าเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของคุณได้(ดูการพักผ่อนในบทที่8)
โบนัสความเชี่ยวชาญ
จะปรากฏอยู่ในตารางของอาชีพ
ถ้าอาชีพใดค่าความสามารถบวก2ที่ระดับ1โบนัสความเชี่ยวชาญจะมีผลบังคับใช้พร้อมกับตัวเลขที่คุณใส่ในแผ่น D&D character:
-เวลาโจมตีคุณจะได้ทอยค่าความสามารถอาวุธกับค่าความเชี่ยวชาญ
-เวลาคุณโจมตีทอยเต๋าเพื่อร่ายเวทมนต์
-เช็คทักษะความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ
-เช็คทักษะในการการใช้อุปกรณ์
-ใช้ความเชี่ยวชาญเพื่อทอยรักษาชีวิต
-
อาชีพจะเป็นตัวกำหนดความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธของคุณ
รักษาชีวิตคุณด้วยความเชี่ยวชาญ และบางครั้งก็มีความเชียวชาญในการใช้ทักษะของคุณ
(ทักษะจะอธิบายในบทที่7และ5)และบางเผ่าพันธ์ก็จะเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญบางอย่างให้คุณเพิ่มขึ้น
เพื่อให้คุณสามารถจำมันได้ทั้งค่าความเชี่ยวชาญเหล่านี้และโบนัสความเชี่ยวคุณควรจุดในแผ่นD&D character
โบนัสความสามารถของคุณไม่สามารถเพิ่มรวดเดียวได้
หรือจำนวนอื่นๆมากกว่าหนึ่งครั้ง
บางครั้งโบนัสความสารถของคุณก็อาจจะได้รับการแก้ไข(เพิ่มสองเท่าหรือลดลงครึ้งหนึ่ง)ก่อนที่คุณจะใช้
หากมีกรณีแสดงให้เห็นว่าโบนัสความสามารถของคุณใช้มากกว่าหนึ่งครั้งในรอบเดียวกันกับที่ควรคูณมากกว่าหนึ่งครั้งคุณจะเพิ่มเพียงครั้งเดียวคูณเพียงครั้งเดียวและลดลงครึ่งหนึ่งเพียงครั้งเดียว
การสร้างBRUENORขั้นที่สอง
บ๊อบ จินตนาการว่าBruenor จะควงขานของเขาและวิ่งเข้าไปในการต่อสู้
พร้อมกับใส่หมวกเหล็กที่มีเขาข้างหนึ่งหักออกไป เขาให้Bruenorเล่นอาชีพ
และบันทึกความสาใฃมารถและความเชี่ยวชาญต่างๆลงบนแผ่น D&D character
สำหรับอาชีพfighterที่เลเวล1Bruenorมี 1 Hit Die-a d10และเริ่มต้นด้วย Hit
Point เท่ากับ
10 + ค่าConstitutionที่กำหนดไว้ บอบจดสิ่งเหล่านี้
และจะจดเลขหลังจากที่เขาพิจารนาค่าConstitutionแล้ว (ให้ดูขั้นตอนที่ 3)
บอบยังบันทึกค่าความเชี่ยวชาญของตัวละครเลเวล1ซึ่งเท่ากับ+2
3.การกำหนด ความสามารถ
ส่วนมากในการทำสิ่งต่างๆในเกมขึ้นอยู่กับ
6 ความสามารถ:
ความแข็งแกร่ง, ความคล่องแคล่ว,
ความอดทน,
ความฉลาด, ไหวฟริบ และ เสน่.
แต่ละความสามารถนั้นมีแต้มอยู่.
แล้วตัวเลขที่เราจะใส่ลงไปใน character sheet.
ความสามารถทั้ง 6 ที่เอาไว้ใช้ในเกมนั้นจะอธิบายใน chapter 7
ตารางสรุปความสามารถที่แสดงการอ้างอิงอย่างรวดเร็วสำหรับสิ่งที่มีประสิทธิภาพที่
วัดจากความสามารถในแต่ละด้าน
แล้วแต่ละเผ่าพันธุ์เพิ่มความสามารถใดและแต่ละอาชีพต้องใช้ความสามารถใด.
คุณสามารถใส่แต้มความสามารถแบบสุ่มๆได้.
โดยการทอยลูกเต๋า
6 หน้า 4
ลูก แล้วเลือก 3 ลูกที่ดีที่สุดมา
แล้วเอาเลขที่ได้มานั้นจดลงไปใน
กระดาษ,
จากนั้นทำแบบที่ว่ามาตั้งแต่ต้นอีก 5
ครั้ง, ที่นี้คุณก็จะได้เลขมา 6 ตัว
แต่ถ้าเกิดคุณไม่อยากกำหนดค่าความสามารถในแบบสุ่ม
คุณสามารถเอาเลขพวกนี้ไปใช้แทนได้
15, 14, 13,
12, 10, 8. ที่นี้เราก็เอาเลขที่ได้
มากำหนดในค่าความสามารถ.
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนค่าความสามารถของคุณให้เข้ากับเผ่าพันธุ์ของเรา
หลังจากที่ทำทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว
ก็ได้เวลากำหนดการปรับแต่งค่าความสามารถ
การกำหนดการปรับแต่งค่าความสามารถต้องใช้ค่าความสามารถและตารางการปรับเปลี่ยนเพื่อตัดสินใจ
ปรับแต่งค่าความสามารถโดยไม่ใช้ตาราง,
วิธีทำนั้นง่ายมาก เอาค่าความสามารถของแต่ละอัน
มาลบ 10 แล้วหารครึ่ง (ถ้ามีเศษให้ปัดตัวเลขลง)
ก็จะได้ผลลับของค่านั้นๆ. แล้วเอาผลลับของแต่ละค่าไปใส่ไว้ใต้ค่าความสามารถ.
การสร้างBRUENORขั้นที่3
บ็อบตัดสินใจเลือกที่จะใช้ค่าความสามารถแบบปกติ(15, 14, 13, 12, 10, 8) ความสามารถสับหรับBRUENOR
เนื่องจากBRUENORเป็นfighter บ็อบเลยเอาเลขที่มากสุดอย่าง 15 มาใส่ในความแข็งเกร่ง
รองลงมาก็คือ
14 บ็อบก็ใส่ในความอดทน BRUENORอาจจะเป็นนักสู้ที่มุทะลุ แต่บ็อบคิดว่าคนแคระต้อง
แก่, ฉลาดและเป็นผู้นำที่ดี บ็อบเลยใส่ค่าให้เหมาะสมในไหวพริบและเสน่ห์
บ็อบเติมคะแนนสุดท้ายของ Bruenor:
10+ ปรับเปลี่ยนconstitution +3 รวมเป็น 13 แต้ม
ตัวแปร: กำหนดขอบเขตความสามารถ
ในตัวเลือกของ
Dungeon Master คุณสามารถใช้ตัวแปรนี้เพื่อพิจารณาคะแนนความสามารถของคุณได้
มีขั้นตอนและวิธีการอธิบายไว้ที่นี่ช่วยให้คุณสามารถสร้างตัวละครที่มีชุดคะแนนความสามารถที่คุณเลือกได้เอง
คุณมี 27 คะแนนในการเพิ่มคะแนนความสามารถของคุณ
ค่าใช้จ่ายของแต่ละคะแนนจะแสดงความสามารถบนตารางคะแนน ตัวอย่างเช่น คะแนน 14 ใช้ 7
คะแนนในการเพิ่ม เมื่อใช้วิธีนี้จะได้ 15 คะแนนความสามารถสูงสุดที่คุณจะสามารถได้เพิ่มคือการเลือกเพิ่มจากเผ่าพันธุ์และคุณไม่สามารถมีคะแนนต่ำกว่า
8 ได้
วิธีการกำหนดคะแนนความสามารถนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างชุดตัวเลขสามตัวเลขสูงและตัวเลขต่ำสามตัวได้
(15, 15, 15, 8, 8, 8)
การจ่ายเพื่อเพิ่มค่าคะแนนความสามารถ
Score
Cost Score Cost
8
0 12 4
9 1 13 5
10 2 14 7
11 3 15 9
คะแนนความสามารถและการปรับแต่ง
Score modifier score modifier
1 -5 16-17 +3
2-3 -4 18-19 +4
4-5 -3 20-21 +5
6-7 -2 22-23 +6
8-9 -1 24-25 +7
10-11 +0 26-27 +8
12-13 +1 28-29 +9
14-15 +2 30 +10
4. อธิบายลักษณะเฉพาะของตัวละคร
สิ่งที่ตัวละครของคุณสามารถทำได้นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณ
มีหกอย่างคือ 1 ความแข็งแกร่ง 2 ความคล่องแคล่ว 3 ความอดทน 4 สติปัญญา 5 ไหวพริบ 6
เสน่ห์ ซึ่งคุณสามารถกำหนดไว้บนแผ่น D&D character ตัวละครของคุณต้องการชื่อ ใช้เวลาสันิดคิดถึงลักษณะท่าทางและกริยาของเขาหรือเธอ
ถ้าใช้ข้อมูลในบทที่4
มันจะช่วยให้คุณสามารถมองลักษณะทางกายภาพและบุคลิกของตัวละครได้
เลือกปรับแต่งตัวละครของคุณ(เข็มทิศคุณธรรมที่นำทางการตัดสินใจของเขาหรือเธอ)
บทที่ 4 ยังช่วยให้คุณสามารถระบุสิ่งที่ตัวละครของคุณชอบมากที่สุดเป็นข้อผูกมัดซึ่งอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเขาเหรอเธอได้
ลักษณะของตัวละครของคุณจะอธิบายว่าเขาอยู่ที่ไหนจากภูมิหลังเช่นดิมบ้านเกิดและตัวละครในโลกของD&D DMของคุณอาจจะสร้างเนื้อเรื่องเพิ่มเติมจากที่กล่าวมาได้มากกว่าหนึ่งในบทที่4
และเขาก็พร้อมจะช่วยเหลือคุณเพื่อสร้างตัวละครตามที่คุณต้องการ
ภูมิหลังของคุณจะทำให้คุณมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่ติดตัวมาและอาจจะมีการเพิ่มความเชี่ยวชาญแก่อุปกรณ์บางประเภทบันทึกข้อมูลนี้พร้อมกับข้อมูลบุคลิกภาพที่คุณคิดลงบนแผ่น D&D character ของคุณ
ความสามารถของตัวละครของคุณ
ใช้คะแนนความสามารถและเผ่าพันธูออกแบบบุคลิกและหน้าตาของเขาหรือเธอ
ตัวละครที่แข็งแกร่งมาก ๆ ที่มี Intelligence ต่ำอาจคิดและปฏิบัติตนแตกต่างจากตัวละครที่ฉลาดมากและมี
Strength
ต่ำยกตัวอย่างเช่นความแข็งแรงสูงมักจะสอดคล้องกับร่างกายที่แข็งแรงหรือและมีพละกำลังในขณะที่ตัวละครที่มีความแข็งแรงต่ำอาจมีลักษณะผอมหรืออวบ
ตัวละครที่มีความ Dexterity สูงอาจเป็นตัวอ่อนและผอมขณะที่ตัวละครที่มีความคล่องแคล่วต่ำอาจเป็นคนเก่งและตัวใหญ่หรือหนักและมีนิ้วมือหนา
ตัวละครที่มี Constitution สูงมักจะดูมีสุขภาพดีมีดวงตาที่สดใสและมีพลังกายที่ล้นหลาม
ในขณะที่ตัวละครที่มี Constitution ต่ำอาจอ่อนแอ
ตัวละครที่มี Intelligence สูงน่าจะเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นและขยันหมั่นเพียรในขณะที่ตัวละครที่มี
Intelligence ต่ำอาจพูดไม่คิดหรือลืมรายละเอียดได้ง่าย
ตัวละครที่มี Wisdom สูงมีการตัดสินที่ดีเอาใจใส่และตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนผู้อื่น
ตัวละครที่มี Wisdom
ต่ำอาจไม่ได้ใส่ใจอะไรมากหรือหลงลืมและไม่รอบคอบ
ตัวละครที่มี Charisma สูงจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นดูน่าเชื่อถือซึ่งมักจะผสมผสานกับความสง่างามหรือการข่มขู่
ตัวละครที่มี Charisma
ต่ำอาจพบว่าถูกรังเกียจและไม่สามารถข่มขู่ใครได้
การสร้าง
BRUENOR ขั้นที่4
Bob เติมในรายละเอียดพื้นฐานของ Bruenor: ชื่อเพศ (ชาย) ความสูงและน้ำหนัก ความแข็งแรงสูงและความอดทนของเขาชี้ให้เห็นถึงร่างกายแข็งแรงและความฉลาดต่ำของเขาแสดงให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจศึกษาหาความรู้
บ๊อบตัดสินใจว่า Bruenor
มาจาก noble line แต่เขาถูกไล่ออกจากบ้านเกิดเมื่อ Bruenor
อายุยังน้อย เขาเติบโตขึ้นมาทำงานเป็นช่างเหล็กในหมู่บ้านห่างไกลของ
Icewind Dale แต่ Bruenor มีโชคชะตาที่กล้าหาญเพื่อเรียกคืนบ้านเกิดเมืองนอนของเขาดังนั้นบ็อบจึงเลือกพื้นหลังฮีโร่บ้านนอกสำหรับคนแคระของเขา
เขาบันทึกความสามารถพิเศษและคุณลักษณะพิเศษให้แก่เขา บ๊อบมีภาพลักษณ์ที่งดงามของ Bruenor
ในใจดังนั้นเขาจึงข้ามลักษณะบุคลิกภาพที่แนะนำในภูมิหลังของวีรบุรุษพื้นบ้าน
Bruenor เป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่คนที่สำคัญเพื่อนและพันธมิตรของเขาอย่างแท้จริง
แต่เขาซ่อนหัวใจอันอ่อนนุ่มนี้ไว้เบื้องหลัง ท่าทางหยาบกระด้าง เขาเลือกอุดมคติของความคุณธรรมจากรายการในเบื้องหลังของเขาโดยระบุว่า
Bruenor เชื่อว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย
จากประวัติความเป็นมาของ Bruenor
ข้อผูกมัดของเขาเป็นที่ชัดเจน: เขาปรารถนาว่าสักวันหนึ่งจะเรียกคืน
Mithral Hall บ้านเกิดของเขาจากมังกรเงาที่ขับไล่คนแคระออกไป
ข้อบกพร่องของเขาเชื่อมโยงกับความห่วงใยธรรมชาติที่อ่อนไหวของเขา
เขามีจุดอ่อนสำหรับเด็กกำพร้าและชีวิตที่ยากลำบากนำทางเขาให้แสดงความเมตตาแม้ว่าจะไม่ได้รับการตอบรับก็ตาม
5.เลือกอุปกรณ์
อาชีพและภูมิหลังของคุณจะเป็นตัวกำหนดอุปกรณ์เริ่มต้นของคุณรวมถึงอาวุธและอุปกรณ์ผจญภัยอื่น
ๆ บันทึกอุปกรณ์เหล่านี้บนแผ่น D&D character ของคุณ ของดังกล่าวดังกล่าวทั้งหมดมีรายละเอียดในบทที่
5
ชุดเกราะ
เกราะของคุณ
(AC) จะแสดงให้เห็นว่ามันช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากการสู้รบได้ดีเพียงใด
สิ่งที่ทำให้กำหนดชุดเกราะและอุปกรณ์สวมใส่ของคุณ คือการปรับแต่งความคล่องแคล่ว
ไม่ใช่ตัวละครทุกตัวจะสามารถสวมเกราะหรือถือโล่ได้ อย่างไรก็ตาม
ถ้าไม่มีเกราะหรือโล่ตัวละครของคุณก็เท่ากับ
AC 10+
ค่าความคล่องแคล่วของเขาหรือเธอ ถ้าตัวละครของคุณสวมเกราะหรือไม่สวมอาจจะถือแค่โล่หรือใส่ทั้งสองอย่า
ให้ใช้กฎในบทที่5 บันทึกACของคุณลงบนแผ่น D&D character
ตัวละครของคุณจำเป็นต้องมีเกราะและโล่เพื่อสวมใส่และป้องกันความเสียหาย
อาชีพของคุณจะเป็นตัวกำหนดชนิดของชุดเกราะที่คุณสามารถใส่ได้
คุณไม่สามารถใส่ชุดเกราะหรือถือโล่ได้หากขาดความเชี่ยวชาญตามที่อธิบายไว้ในบทที่5
บางคาถาและบางอาชีพก็ใช้วิธีที่แตกต่างในการใช้ACหากคุณสับสนคุณคสรเลือกใช้วิธีได้ก็ได้วิธีหนึ่ง
อาวุธ
สำหรับอาวุธแต่ละอย่างของตัวละคร
คำนวณตามที่คุณปรับแต่งและคำนวณความเสียหายเมื่อคุณตีโดน
เมื่อคุณโจมตีด้วยอาวุธคุณจะต้องทอย
d20 และเพิ่มโบนัสความสามารถของคุณ
(แต่เฉพาะเมื่อคุณมีความชำนาญในอาวุธเท่านั้น)
-สำหรับการโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิดให้ใช้ความแข็งแรงเพื่อทำความเสียหายหรืออาวุธบางประเภทเช่นหอกให้ใช้ความคล้องแคล่วแทนได้
-สำหรับอาวุธระยะไกลส่วยใหญ่จะใช่ความคล่องแค่ลวแต่ถ้าเป็นของที่โยนหรือปาสามารถใช้ความแข็งแรงแทนได้เหมือนกัน
การสร้าง
BRUENOR ขั้นที่5
บ๊อบ
เขียนอุปกรณ์เริ่มต้นจากอาชีพ fighter
และภูมิหลังฮีโร่บ้านนอก อุปกรณ์เริ่มต้นของเขาประกอบด้วย chainmail และโล่ซึ่งรวมกันเพื่อให้ Bruenor มีเกราะระดับ 18
สำหรับอาวุธ Bruenor
บ๊อบเลือก
battleaxe และ handaxes
Battleaxe ของเขาเป็นอาวุธระยะประชิดดังนั้น Bruenor
จึงใช้ความแข็งแรงในการโจมตีและคำนวณความเสียหาย
โบนัสการโจมตีของเขาคือควมเเข็งเเรง (+3) บวกโบนัสความชำนาญ (+2) รวม +5 Battleaxe
สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับ 1d8 และ Bruenor จะเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังโจมตีให้กับความเสียหายเมื่อโดนโจมตี
รวมเป็นค่าความเสียหายที่เพิ่มลงอย่างมากของเขาคือ 1d8 + 3 เมื่อขว้างปา Handaxe,
Bruenor มีโบนัสโจมตีเท่ากัน
(ขวานมือเป็นอาวุธโยนให้ใช้ ความแข็งแรง สำหรับการโจมตีและความเสียหาย) และอาวุธจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้เท่ากับ
1d6 +
3 เมื่อโดนโจมตี
6.มารวมกัน
ส่วนใหญ่แล้วตัวละครในD&Dไม่ได้ทำงานเพียงคนเดียว แต่ละตัวละครมีบทบาทภายในปาร์ตี้ที่ทำงานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์ร่วมกันทำงานเป็นทีมและช่วยเหลอกันเพื่อให้รอดจากเหตุก่รร้ายๆต่างๆในโลกของ DUNGEONS
& DRAGON พูดคุยกันระหว่างเพื่อนของคุณและDMว่าจะให้คัวละครรู้จักกันดีหรือไม่
อาจจะต้องมีเนื้อหาการพบกันครั้งแรกพร้อมกับภาระกิจต่างๆที่จะได้รับ
เหนือกว่าเลเวล1
เมื่อตัวละครของคุณไปผจญภัยและเอาชนะความท้าทายต่างๆมาได้เขาหรือเธอจะได้รับค่าประสบการณ์
เมื่อตัวละครมีค่าประสบการณ์มากมันจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ความก้าวหน้านี้เรียกว่าการ เลเวลอัพ
มัวตัวละครของคุณเลเวลอัพ
คุณจะสามารถเลือกความสามารถพิเศษที่ได้เฉพาะอาชีพของคุณได้ซึ่งจะอธิบายใน
บทของอาชีพ โดยบางครั้งก็จะเพิ่มค่าความสามารถตั้งแต่1หรือ2
และคุณไม่สามารถเพิ่มคะแนนความสามารถได้มากกว่า20 ในการเพิ่มโบนัสโบนัสของผู้เล่นทุกคนจะเพิ่มขึ้นในบางเกม
ทุกครั้งที่คุณได้รับเลเวลคุณจะได้รับ Hit
Die เพิ่ม
ทอย Hit Die เพื่อปรับค่าความอดทนและจดลงเป็นจำนวนสูงสุด
หรือคุณจะใช้ค่าคงที่ที่แสดงในบทของอาชีพซึ่งเป็นผลลัพธ์เฉลี่ยของลูกเต๋า
เมื่อค่าความอดทนเพิ่มขึ้น hit
point
สูงสุดก็จะเพิ่มขึ้นไปด้ยตามระดับเลเวลของคุณ เช่นเมื่อ Bruenorเลเวล8เขาเป็น fighter เขาได้พิ่มค่าความอดทนจาก17เป็น18
ซึ่งจะเป็นการเพิ่ม Conclusion modifier จาก +3 เป็น +4 และ His hitของเขาก็เพิ่มขึ้น 8
ความคืบหน้าของตัวละครจะสรุปจากค่าประสบการณ์ที่คุณใช้เพื่อเพิ่มเลเวลจาก1เป็น20ซึ่งความสามารถพิเศษเรารวบรวมข้อมูลไว้ในบทอาชะเพื่อให้คุณสามารถปรับค่าความสามารถให้ดียิ่งขึ้น
ชั้นของการเล่น
ความก้าวหน้าของตัวละคร
แบ่งเลเวลออกเป็นสี่ช่วง คำอธิบายทั่วไปเกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นเกมที่เปลี่ยนไปเนื่องจากเนื้อหาที่ได้รับ
ในขั้นแรก ตั้งแต่เลเวล1-4ตัวละครจะเป็นได้แค่นักผจญภัยมือใหม่
พวกเขาต้องเรียนรู้และเก็บประสบการณ์เพื่อให้สามารถใช้ความสามารถของอาชีพตัวเองได้(เช่น
wizardของ
Arcane Tradition หรือ fighter ของ Marlial Archetype)
ซึ่งช่วงแรกอันตรายค่อนข้างน้อยส่วนใหญ่ก็จะเป็นปัญหาสำหรับชาวนาหรือหมู่บ้าน
ในขั้นที่สอง
ตั้งแต่เลเวล5-10พวกเขาจะมีความเป็นมืออาชีพนายงานของตัวเอง
อาชีพนักเวทย์ส่วนใหญ่สามารถใช้เวทย์ขั้นสามได้
และเป็นจุดเริ่มต้นของพลังเวทย์ใหม่ๆเช่นfireball และ lightning boltซึ่งจะสร้างความเสียหายวงกว้าง
และอันตรายที่พวกเข้าจะได้พบจะเพิ่มมากขึ้นมีความรุนแรงถึงระดับเมืองและอาณาจักรเลยทีเดียว
ในขั้นที่สาม
ตั้งแต่เลเวล11-16ตัวละครของคุณจะเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจมากเมื่อถึงเลเวล11จะมีหลายสกิลที่อยู่ในขั้นที่6
ซึ่งมันจะสร้างผลกระทบที่ผู้เล่นก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้
สามารถทำอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่ได้ดดยดารโจมตีเพียงครั้งเดียวซึ่งระดับของอันตรายนั้นจะยิ่งหใญ่ถึงระดับทวีปหรือประเทศเลยทีเดียว
ในขั้นที่สี่ ตั้งแต่เลเวล17-20
ตัวละครของคุณจะมีความาสารถสสูงสุดของอาชีพตัวเอง สามารถกลายเป็นวีระบุรุษหรือจอมมารได้
ชะตากรรมของโลกหรือแม่แต่พหุภพจะถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายเมื่ออยู่ต่อหน้าการผจญภัยของพวกเขา
ความก้าวหน้าของตัวละคร
ค่าประสบการณ์ เลเวล โบนัสความเชี่ยวชาญ
0 1 +2
300 2 +2
900 3 +2
2700 4 +2
6500 5 +3
14000 6 +3
23000 7 +3
34000 8 +3
48000 9 +4
64000 10 +4
85000 11 +4
100000 12 +4
120000 13 +5
140000 14 +5
165000 15 +5
195000 16 +5
225000 17 +6
265000 18 +6
305000 19 +6
355000 20 +6